หนีร้อนให้อาบน้ำ หนีรักให้มาหาเรา อำเภอเมืองปานยินดีต้อนรับทุกท่านที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ท่องเที่ยวธรรมชาติ ชุมชนท้องถิ่น ที่มีภูมิปัญญา วัฒนธรรมที่สวยงาม บรรยากาศดี เที่ยวแล้วติดใจ ไม่ผิดหวังแน่นอน
การเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอเมืองปาน ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย และอำเภอวังเหนือ ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอแจ้ห่ม ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเมืองลำปาง ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแม่ออนและอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอำเภอเมืองปานตั้งในเขตพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดลำปาง เมื่อเดินทางสายหลัก เส้นทางถนนจากอำเภอเมืองลำปางมาอำเภอเมืองปาน ตลอดเส้นทาง มีสภาพภูมิทัศน์เป็นภูเขา ป่าไม้เขียวชะอุ่ม ตลอดเส้นทางซ้ายและขวา เดินทางท่ามกลางธรรมชาติอ้อมล้อม อากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินทางมาพักผ่อน อำเภอเมืองปานประกอบอาชีพท้องถิ่นส่วนใหญ่ เกษตรกร ค้าขาย ขายเห็ด ขายไข่ ขายจักสานไม้ไผ่ ชะลอมใส่ไข่ น้ำแร่ ตะกร้าไม้ไผ่ เป็นต้น สามารถพบเห็นร้านค้าข้างทางขายสินค้า ขายของป่าตลอดเส้นทางมาอำเภอเมืองปาน เมื่อมาถึงตัวอำเภอเมืองปานจะพบกับสามแยกร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นทางซ้ายมือ มองกลับเส้นทางที่เดินทางมาจะเห็นวัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง (วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส) บนยอดเขาสีขาวงดงาม ตามเส้นทางถนนหากเลี้ยวไปทางซ้ายจะไปศูนย์ราชการอำเภอเมืองปาน เลี้ยวตามถนนไปทางด้านขวาเป็นทางไปตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน และสามารถเดินทางไปถึงอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ในอำเภอเมืองปานมีทั้งหมด 5 ตำบล 56 หมู่บ้าน ในแต่ละตำบลของอำเภอเมืองปานจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายแตกต่างกันไป วันนี้เราจะมารู้จักสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอเมืองปานกัน
วัดข่วงกอม
วิหารไม้สักหลังใหญ่ เด่นสง่า ทางเข้าเป็นซุ้มประตูโขงออกแบบด้วยไม้สักเป็นหลัก สองข้างซ้ายขวาประดับด้วยสิงห์โบราณสีขาว ส่วนบันไดทางเดินออกแบบโดยการนำหินก้อนใหญ่มาเรียงในรูปทรงโค้งครึ่งวงกลม สร้างขึ้นโดยครูบาศรีวิชัย อายุมากกว่า 200 ปี มีประวัติการตั้งวัดข่วงกอมอยู่บริเวณหน้าวัด วัดข่วงกอมตั้งอยู่บนเส้นทางไปอุทยานแจ้ซ้อน ลานหน้าวัดเป็นลานกว้างขวางจอดรถได้สะดวก
วิหารไม้สักหลังใหญ่ เด่นสง่า ทางเข้าเป็นซุ้มประตูโขงออกแบบด้วยไม้สักเป็นหลัก สองข้างซ้ายขวาประดับด้วยสิงห์โบราณสีขาว ส่วนบันไดทางเดินออกแบบโดยการนำหินก้อนใหญ่มาเรียงในรูปทรงโค้งครึ่งวงกลม สร้างขึ้นโดยครูบาศรีวิชัย อายุมากกว่า 200 ปี มีประวัติการตั้งวัดข่วงกอมอยู่บริเวณหน้าวัด วัดข่วงกอมตั้งอยู่บนเส้นทางไปอุทยานแจ้ซ้อน ลานหน้าวัดเป็นลานกว้างขวางจอดรถได้สะดวก
อุทธยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
นักท่องเที่ยวสามารถต้มไข่น้ำแร่ ซึ่งไข่ต้มน้ำแร่จะมีไข่ขาวที่ไม่สุกไข่แดงสุก ต่างจากไข่ต้มธรรมดาที่ไข่ขาวสุกไข่แดงไม่สุก และยังมีห้องอาบน้ำแร่ บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย ต้มไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน เคล็ดลับความอร่อย ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในการต้มไข่ เช่น กลางวันอากาศร้อนจะต้มไข่ที่เวลา 13-15 นาที ช่วงเช้าหรือเย็น จะต้มไข่ที่อุณหภมิ 15-17 นาที ทั้งนี้การต้มไข่ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวว่าชอบไข่ลักษณะการสุกของไข่แบบไหน ดังคำเหนือที่ว่า ของกิ๋นจะลำ อยู่ตี้คนมัก
ภายในอุทยานมีน้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำน้ำแม่มอน น้ำตกมีความสูงแต่ละชั้นแตกต่างกัน ทั้งหมด จำนวน 6 ชั้น ในแต่ละชั้นจะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน มีแอ่งน้ำรองรับ มีบริเวณสำหรับเล่นน้ำหรือแช่เท้า น้ำเย็นสบาย บริเวณที่มีความลึกจะมีป้ายเตือนห้ามเล่นน้ำ และมีเจ้าหน้าที่อุทยานประจำในแต่ละจุด และเดินตรวจสอบความปลอดภัยทุกชั่วโมง มีลานจอดรถยนต์ที่กว้างขวาง สะดวก และปลอดภัย มีทางเดินเท้าที่สวยงามท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี ริมทางสองฝั่งตลอดเส้นทาง มีลานกางเต็นท์ในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เมื่อเดินชมบริเวณรอบ ๆ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนแล้ว ภายในอุทยานมีบริการนวดแผนไทย ในราคาชั่วโมงละ 150 บาท และห้องอาบน้ำแร่ ใช้น้ำแร่ที่ต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิน้ำแร่ ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. และในวันหยุดเปิดบริการ ตั้งแต่ 06.00 – 19.00 น.
บ้านป่าเหมี้ยง
แหล่งท่องเที่ยวต่อมาขอแนะนำศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง บ้านป่าเหมี้ยงมีประชากรประมาณ 140 หลังคาเรือน เป็นชุมชนที่ก่อตั้งมานานกว่า 200 ปี ในการเดินทางไปยังป่าเหมี้ยง สวรรค์บนดอย บรรยากาศดี เย็นสบาย ร่มรื่นด้วยดอกไม้ใบหญ้า ประดับเส้นทางด้วยต้นดอกเสี้ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถรับชมดอกเสี้ยวบานในงานเทศกาลดอกเสี้ยวบาน ทุกเดือนพฤษภาคมของทุกปี สวยงามคล้ายคลึงดอกซากุระเมืองไทย บนถนนที่ลัดเลาะไปตามไหล่เขามีความงดงามของป่าสองข้างทางให้ชื่นชม ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำสวนเหมี้ยงหรือเมี่ยง และปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกา ปลูกต้นแมคคาเดเมีย อาชีพเสริม คือ ปลูกเสาวรส ชาวบ้านในชุมชนของป่าเหมี้ยงนั้น บอกได้เลยว่าหากมาแล้วย่อมติดใจ เพราะด้วยความน่ารักเป็นกันเอง อีกทั้งยังมีความงดงามโดยรอบของธรรมชาติ ที่สามารถสัมผัสได้ในมุมต่าง ๆ และที่สำคัญ คือ วิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและงดงามของความเป็นชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง หากนักท่องเที่ยวชื่นชอบธรรมชาติศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
แหล่งท่องเที่ยวต่อมาขอแนะนำศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง บ้านป่าเหมี้ยงมีประชากรประมาณ 140 หลังคาเรือน เป็นชุมชนที่ก่อตั้งมานานกว่า 200 ปี ในการเดินทางไปยังป่าเหมี้ยง สวรรค์บนดอย บรรยากาศดี เย็นสบาย ร่มรื่นด้วยดอกไม้ใบหญ้า ประดับเส้นทางด้วยต้นดอกเสี้ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถรับชมดอกเสี้ยวบานในงานเทศกาลดอกเสี้ยวบาน ทุกเดือนพฤษภาคมของทุกปี สวยงามคล้ายคลึงดอกซากุระเมืองไทย บนถนนที่ลัดเลาะไปตามไหล่เขามีความงดงามของป่าสองข้างทางให้ชื่นชม ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำสวนเหมี้ยงหรือเมี่ยง และปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกา ปลูกต้นแมคคาเดเมีย อาชีพเสริม คือ ปลูกเสาวรส ชาวบ้านในชุมชนของป่าเหมี้ยงนั้น บอกได้เลยว่าหากมาแล้วย่อมติดใจ เพราะด้วยความน่ารักเป็นกันเอง อีกทั้งยังมีความงดงามโดยรอบของธรรมชาติ ที่สามารถสัมผัสได้ในมุมต่าง ๆ และที่สำคัญ คือ วิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและงดงามของความเป็นชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง หากนักท่องเที่ยวชื่นชอบธรรมชาติศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ดอยจิกจ๊องฆ้องคำ
สำหรับนักท่องเที่ยวแอดเวนเจอร์ สายเดินป่า ขอแนะนำดอยจิกจ้องฆ้องคำ ตั้งอยู่บนภูเขาเส้นทางเดิน 5 กิโลเมตร ที่ค่อนข้างชัน เมื่อมาถึงจะพบกับความสวยงามทะเลหมอก วิวทิวทัศน์ที่สามารถมองได้รอบด้าน 360 องศา
สำหรับนักท่องเที่ยวแอดเวนเจอร์ สายเดินป่า ขอแนะนำดอยจิกจ้องฆ้องคำ ตั้งอยู่บนภูเขาเส้นทางเดิน 5 กิโลเมตร ที่ค่อนข้างชัน เมื่อมาถึงจะพบกับความสวยงามทะเลหมอก วิวทิวทัศน์ที่สามารถมองได้รอบด้าน 360 องศา
นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ วัฒนธรรม ประเพณี ของอำเภอเมืองปาน ผ่านการรับชมทิวทัศน์ ศิลปะวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วัดโบราณ ประเพณีท้องถิ่น ดังคำขวัญของอำเภอเมืองปานที่ว่า "แหล่งต้นน้ำลำธาร อุทยานแจ้ซ้อน บ่อน้ำแร่ลือนาม สืบสานโครงการพระราชดำริ วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง"
อ้างอิงจาก : ห้องสมุดประชาชนอำเภอเมืองปาน ตำบลเมืองปาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง
Post a Comment