ข้าวหลามเป็นอาหารหรือจะเรียกว่าเป็นขนมหวานอีกอย่างก็น่าจะได้ เพราะมีรสหวานจากน้ำกะทิ และน้ำตาลที่ผสมลงไปให้กลมกล่อม
ด้วยกลุ่มสตรีบ้านไร่ใต้ หมู่ที่ 1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ต้องการมีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนและนำความความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ในสังคมยุคปัจจุบัน โดยเริ่มจัดกิจกรรมครั้งแรกตั้งแต่ ปี 2563 ในรูปแบบกลุ่มสนใจ การทำปลาเค็มฝังทราย หลักสูตร 6 ชม. และได้ทำการต่อยอดจนมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มมูลค่า-จัดจำหน่ายสร้างรายได้ให้ครอบครัวและชุมชน
ปลาเค็มฝังดินทรายนั้น เป็นวิธีการถนอมอาหารโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยการนำวัตถุดิบคือปลาทะเล มาผ่านกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
1. เอาเกล็ดเอาไส้ออกล้างให้สะอาด
2. จุกเกลือเม็ดให้ทั่วตัวปลาและในท้อง แล้วห่อด้วยกระสอบมัดเชือกให้แน่นรอบตัวปลาแล้วนำไปฝังทราย 5 ถึง 7 วัน
3. เมื่อขึ้นมาจากดินล้างให้สะอาดจากนั้นนำมาผูกเชือกห้อยหัวลง 3 วันโดยไม่ต้องใช้แสงแดดในการตากแห้ง
4. นำเข้าตู้เย็น 2 วัน เพื่อเป็นการปรับกลิ่นแอมโมเนียออกจากตัวปลา เป็นการเสร็จกระบวนการ กลายเป็นปลาเค็มฝังดินไร้แดด ซึ่งมีรสชาติอร่อย มีกลิ่นหอม สามารถเก็บไว้ได้นานนับปี
วิธีการเตรียมบ่อฝังทราย มีวิธีการ ดังนี้
1. เตรียมขอบบ่อ ขนาด 100 x 100
2. เตรียมทรายก่อ (ทรายหยาบ)
3. เททรายก่อลงในบ่อความลึก 1 ศอก
ปลาที่นิยมทำปลาฝังทราย ได้แก่ ปลาอินทรีย์ ปลากระบอก ปลาจวด และปลามง ซึ่งเป็นปลาที่ได้จากการประมงพื้นบ้านในเขตพื้นที่ตำบลนาคา วิธีการบรรจุภัณฑ์ใช้ถุงซีลสุญญากาศทำให้สามารถเก็บไว้ได้นานนับปี
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา ซึ่งใช้เป็นที่พักผ่อนและรักษาโรค เชื่อกันว่าน้ำแร่ อุณหภูมิของน้ำจากบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้ เช่น โรคเหน็บชา โรคไขข้ออักเสบ โรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์ เป็นต้น
ลักษณะทางกายภาพ
เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ มีเนื้อที่ 4 ไร่ โดยมีน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน 5 บ่อ เกิดขึ้นบนที่ราบตามแนวร่องห้วยบางน้ำร้อน อุณหภูมิน้ำผิวดิน 40-63 องศาเซลเซียล (C) น้ำพุร้อน ประกอบด้วยแร่ธาตุมากมาย เช่น ซัลเฟต คลอไรต์ ไนเตรต