บุญเดือน 3 ไขประตูเล้า ฮะเหง้าคนภูไท ตำบลนายูง อำเภอศรีธาตุ
" สืบฮอยต๋า วาฮอยปู่ ฮีตปู่มิเฮ้ออย่า ฮีตย่ามิเฮ้อเส "
ภูไท เป็นชนเผ่า มีภาษาพูดเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งแตกต่างจากภาษาอีสาน และมีอาชีพทำนาปลูกข้าวปีละครั้ง มีความเป็นอยู่ วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ขนบธรรมเนียมประเพณีก็คล้ายๆกับชาวอีสานทั่วไป
ประชาชนตำบลนายูง ตำบลหนองนกเขียน อำเภอศรีธาตุ เป็นคนไทยชนเผ่าหนึ่งที่อพยพย้ายถิ่นมาจากเมืองแถนเมืองบก เมืองวัง เขตรอยต่อของประเทศลาวและเวียดนามในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่3 คนภูไทนายูง มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ยึดถือธรรมเนียม พิธีกรรมประเพณีปฏิบัติสืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นอัตลักษณ์เฉพาะชนเผ่าภูไท เช่น ภาษาพูด การแต่งกาย พิธีกรรม วิถีความเป็นอยู่ อาหาร เครื่องมือประกอบอาชีพ มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน ช่วยเหลือกันทำงาน และเมื่อถึงวันขึ้น 3 ค่ำเดือน3 ชาวภูไทจะทำพิธีไขประตูเล้าสู่ขวัญข้าว คล้ายกับคนอีสานทั่วไป
ชาวอีสานแต่โบราณเชื่อว่า “วันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันฟ้าไข(เปิด)ประตูฝน เพื่อให้ฝนตกลงมาสู่โลกมนุษย์ และเชื่อว่าวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันที่โลกมีความอิ่มและอุดมสมบูรณ์ที่สุด" ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า “กบบ่มีปาก นาคบ่มีฮูขี่ (ฮูขี่ แปลว่า รูทวารหนัก) หมากขามป้อมก็ต่าวหวาน” จึงถือ![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghpGz8S2FgLLnbGZlCO6duXnV40T1OwqUXFN-w4BtnSIT1uKyvcmKToCf8qLDhPfreMz7TZElmsq-iyC1rzsaZiMfi4GklePIg9hEFdvDdpLF7BrujSzoBQazCTijLgkAICCu6GOkyhGuQpSqGn4Rd_tLi--8L3WwQrDRFrxvcn2DLTAhCbEMstsfP/s16000/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E3.jpg)
คำกล่าวว่า “กบบ่มีปาก นาคบ่มีฮูขี่ (ฮูขี่ แปลว่า รูทวารหนัก) หมากขามป้อมก็ต่าวหวาน” จึงถือโอกาสเปิดประตูเล้าข้าว (ประตูยุ้งข้าว) ของตน ซึ่งปิดไว้ห้ามเปิดมาตั้งแต่วันเอาข้าวขึ้นเล้าหลังนวดข้าวเสร็จ ในประมาณกลางเดือนสิบสอง หรือต้นเดือนอ้ายเป็นอย่างช้า ซึ่งจะมี “พิธีเอาข้าวขึ้นเล้า” “พิธีสู่ขวัญข้าว” และ “พิธีตุ้มปากเล้า” ก่อนที่จะเปิดประตูเล้า และจะนำข้าวเปลือกที่อยู่ในเล้าไปถวายวัด ก่อนจะตักข้าวในเล้าลงมาตำกินในครัวเรือน (ซึ่งสมัยโบราณใช้วิธีการตำข้าวด้วย ครกมอง) เพื่อให้เป็นไปตาม “คองสิบสี่สำหรับประชาชน ข้อที่ 1” ที่บัญญัติไว้ว่าประเพณีบุญเปิดประตูเล้าสู่ขวัญข้าวหรือบุญเบิกฟ้า ทำพร้อมกันในเดือนสาม ขึ้นสามค่ำ เป็นฮีตหรือการทำบุญประจำเดือนของชาวภูไทที่ยึดถือมาแต่โบราณพิธีสู่ขวัญข้าว เป็นประเพณีที่ชาวอีสานแต่ละครอบครัวจะทำกัน ถ้าครัวเรือนไหนจะสู่ขวัญข้าวก็จะจัด “พาขวัญน้อย” หนึ่งพา แล้วให้หมอสูดมาเป็นผู้ “สูดขวัญ” ให้เล้าข้าว โดยโยงด้ายสายสิญน์จากเล้าข้าวมาหาพาขวัญกับหมอสูดที่อยู่ข้างๆ ซึ่งในประเพณีอีสานในการสูดขวัญข้าวก็จะมีคำสูดขวัญโดยเฉพาะ สำหรับ คำว่า ไขประตูเล้า เป็นภาษาชาวเผ่าภูไท ซึ่ง ไขประตูเล้า แปลว่า เปิดประตูเล้า หมายถึงเปิดประตูเล้าข้าว โดยทุกครัวเรือนจะเปิดประตูฉางข้าว(เล้าข้าว) ตอนเช้ามืด ทำพิธีบวงสรวงพระแม่โพสพ ผู้เป็นเจ้าของขวัญข้าว พร้อมกันนี้ ลูกหลาน จะทำพิธี ผูกแขน พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของตนเอง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู ต่อผู้มีบุญคุณ ความโอบอ้อมอารี ความสำนึกรักษ์บ้านเกิดนั่นเอง
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhogVcZ1fxSrNpt-PhiaTZ5bq-l2zFcds8oq0dDSo5T2gyo0n4xPearke0olnm3jJ_LQXt4nOvRuWyih9IjbULAjEjo55DH5b0QB5nHNE3MFGuHH8643QrdHIBAAvYxKWEajRtaFfNGTxoMm1FpH3uoXR5coGtK9p2doOC81AzcEEIAEpsyz55WcXgD/s16000/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E5.png)
โดยการเฉลิมฉลองบุญเดือน 3นี้ ถือเป็นประเพณีที่สำคัญที่สุดของภูไทตำบลนายูง และตำบลหนองนกเขียนมีการสักการะบูชาดวงวิญญาณท่านอัญญาหลวง ซึ่งเป็นผู้ที่คนภูไทตำบลนายูงให้ความเคารพมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล รวมถึงการจัดงานเฉลิมฉลองในหมู่คนภูไทพร้อมต้อนรับญาติมิตรแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน การจัดงาน "สืบฮอยต๋า วาฮอยปู่ ฮีตปู่มิเฮ้ออย่า ฮีตย่ามิเฮ้อเส" เป็นการรวมพลังแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของคนภูไททั้งสองตำบลโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบำรุงรักษาศิลปะจารีตประเพณีภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นชาวภูไทจะทำพิธีไขประตูเล้าสู่ขวัญข้าวก่อนการนำข้าวลงจากเล้ามากิน หรือใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ในฤดูกาลต่อไป
ตำแหน่งที่ตั้ง รูปปั้นอัญญาหลวงตั้งอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านนายูง ตำบลนายูง อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี 41230
การเดินทางเดินทางไปทางทิศตะวันออกของอำเภอศรีธาตุประมาณ 6 กิโลเมตรจะถึงตำบลนายูง เป็นชุมชนคนภูไททั้ง10หมู่บ้านที่พร้อมต้อนรับผู้คนที่ต้องการมาเรียนรู้ ศิลปะวัฒนธรรมประเพณีภูไท ซึ่งในวิถีอีสานปัจจุบัน การทำพิธีสู่ขวัญข้าว การเอาข้าวขึ้นเล้า จะไม่ค่อยมีแล้ว จะนิยมเอาใส่กระสอบไว้ในบ้านหรือขายตั้งแต่เกี่ยวข้าวเสร็จเนื่องด้วยยึดความสะดวกสบายตามสภาพสังคม และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิมเพราะการทำนาในปัจจุบันมีการลงทุนมีการใช้เครื่องจักรและการจำหน่ายผลผลิตเพื่อให้ได้กำไรพิธีกรรมที่เคยปฏิบัติจึงเปลี่ยนแปลงไปด้วยนอกเหนือจากพิธีกรรมแล้ว เล้าข้าว ยังแฝงไว้ซึ่งภูมิปัญญาแห่งบรรพชนในการออกแบบการก่อสร้างการใช้ประโยชน์และการเก็บรักษาผลผลิตที่ได้สั่งสมมาอีกด้วย
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นายทรงศิลป์ ทองคำ
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นายทรงศิลป์ ทองคำ
ข้อมูล TKP อ้างอิง : https://341udonthani.blogspot.com/2022/08/3.html
Post a Comment